เทรนด์ เรตินอล ทำไมมาแรง ?
ตอนนี้กระแสของสารตัวหนึ่งกำลังมาแรงในวงการต่อต้านริ้วรอย นั่นก็คือเรตินอลนั่นเอง หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินชื่อสารตัวนี้กันมาแล้ว ส่วนบางคนอาจจะคุ้นกับชื่อ วิตามินเอบริสุทธิ์ มากกว่า บทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับสารตัวนี้ให้มากยิ่งขึ้น จะได้รู้ว่า เรตินอลคืออะไร ให้ประโยชน์อะไรกับผิวบ้าง และถ้าจะใช้อย่างถูกวิธีควรใช้อย่างไร
เรตินอล คือ วิตามินเอบริสุทธิ์ เป็นสารที่จัดอยู่ในกลุ่ม เรตินอยด์ (retinoids) มักพบในผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย หรือกลุ่ม Anti-Aging ซึ่งเป็นส่วนผสมที่มีงานวิจัยรองรับเป็นจำนวนว่าสามารถลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เรตินอล (Retinol) มีความสำคัญต่อผิวอย่างไร
เรตินอลมีบทบาทสำคัญต่อผิว โดยก่อนจะไปถึงเรตินอล เรามารู้เรื่องของชั้นผิวกันแบบคร่าว ๆ ก่อนดีกว่า ปกติเมื่อเราอายุมากขึ้น ชั้นผิวของเราจะมีการแบ่งตัวช้าลงและการผลัดเซลล์ผิวเกิดช้าลง ปกติการผลัดเซลล์ผิวจะอยู่ที่ประมาณ 28 วัน แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น รอบในการผลัดเซลล์ผิวจะช้าลง บางคนอาจจะไปอยู่ที่ 40-45 วัน
นอกจากนี้ปัจจัยทำร้ายผิว Exposome อย่างเช่น รังสี UVA มีผลอย่างมากที่ทำให้ชั้นผิวบางลง 1 และมีการทำลายเส้นใยคอลลาเจนในผิวมากยิ่งขึ้น2 อีกทั้งปัจจัยภายนอกอื่น ๆ เช่นมลภาวะ ฝุ่น PM2.5 ความเครียดสะสม การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ล้วนทำให้เกิดอนุมูลอิสระ3 จึงทำให้เกิดร่องริ้วรอยร่องลึก อีกทั้งผิวดูหมองคล้ำและไม่สดใส ดูแก่กว่าวัยอันควรในที่สุด โดยมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหลายอย่างเช่น
ประโยชน์เรตินอลเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการต่อต้านริ้วรอย
ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยลดเลือนริ้วรอยและปรับผิวที่หมองคล้ำให้สว่างสดใส แลดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น เรตินอลมีส่วนช่วยในการแก้ปัญหารอยดำ ทำให้ผิวพรรณสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น และเสริมเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแลดูกระจ่างใส เรียบเนียน รวมไปถึงมีประโยชน์ในการควบคุมการผลิตน้ำมันและลดขนาดรูขุมขน ลดการอุดตันที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว และฟื้นฟูคอลลาเจนที่เสียหายจากมลภาวะหรือแสงแดดในระหว่างวันได้เป็นอย่างดี
การใช้ตอนกลางคืน
ปกติแล้ว เรตินอล เหมาะกับการใช้ตอนกลางคืน ดังที่ Food &Drug Adminisstration (FDA) ที่สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า เรตินอลสามารถทำให้ผิวรู้สึกบอบบางได้ ข้อมูลจาก Harvard Medical School กล่าวว่า เรตินอล สามารถทำให้ผิวรู้สึกแห้ง และเกิดการระคายเคืองได้ แพทย์ก็จะแนะนำให้เริ่มใช้วันเว้นวันก่อน และเมื่อผิวเริ่มเคยชินกับมัน และไม่เกิดอาการระคายเคือง ค่อยเริ่มปรับมาใช้ทุกวันได้ ไม่ว่าคุณจะใช้บ่อยแค่ไหน ทุกครั้งที่ใช้ เรตินอล คุณควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ตามด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง
การใช้ในตอนเช้า
เรตินอล ปกติแล้ว คุณควรจะใช้ครีมกันแดดทุกวัน เพื่อป้องกันผิวจากรังสี UVA และ UVB (Broad Spectrum) ที่มี SPF15เป็นอย่างน้อย ถ้าใช้เรตินอลแล้ว การทาครีมกันแดดทุกเช้าเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าปกติ เพราะ เรตินอล สามารถทำให้ผิวไวต่อแสงแดด สาวๆจึงควรทาครีมกันแดดเป็นขั้นตอนสุดท้ายในสกินแคร์รูทีน ก่อนลงเมคอัพค่ะ นอกจากนั้นนั้นแล้ว คุณควรใช้ทาครีมกันแดดเพิ่ม ทุก2 ชั่วโมง ตามคำแนะนำจาก FDA และปกปิดผิวส่วนที่โดนแดดด้วยเสื้อแขนยาว กางเกง และหมวกปีก แว่นตากันแดด และอยู่ในร่ม จำกัดเวลาที่โดนแดด โดยเฉพาะช่วงเวลา 10.00น. ถึง 14.00 น.
เทรนด์เครื่องสำอางค์ 2024 ความหลากหลาย
ผู้บริโภคมีความต้องการผลิตภัณฑ์ความงามที่หลากหลายมากขึ้น เรตินอล ครอบคลุมทุกสีผิว เพศ และรสนิยม ตัวอย่างเช่น แบรนด์เครื่องสำอางหลายแบรนด์ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับผู้บริโภคที่มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวสีเข้ม ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย และผลิตภัณฑ์สำหรับเพศทางเลือก ทั้งนี้เป็นเพราะผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความเป็นตัวเองได้เฉพาะตัวมากขึ้น